รีวิวโบรกเกอร์ Roboforex ดีไหม วิธีสมัครเปิดบัญชี ฝากถอนเงิน เงื่อนไข

รีวิวโบรกเกอร์ Roboforex ดีไหม

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่ตั้งบริษัทในประเทศนิวซีแลนด์และก่อตั้งตัวแทนในประเทศไทยเมื่อปี 2009 โดยมีระยะเวลาให้บริการกับนักเทรดไทยมาอย่างยาวนาน รองรับให้บริการลูกค้าภาษาไทยอย่างครอบคลุมผ่านช่องทางหลากหลาย เช่น Facebook, Line, และ Live Chat ทำให้นักเทรดได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการซื้อขาย.

RoboForex มีชื่อเสียงในวงการ Forex ในประเทศไทย โดยได้รับความสนใจจากนักเทรดและผู้ลงทุนท้องถิ่น ซึ่งยิ่งเป็นไปในปี 2020 โบรกเกอร์นี้ได้รับรางวัลมากถึง 5 รางวัลต่าง ๆ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นและคุณภาพของการให้บริการของ RoboForex ในตลาด Forex ในประเทศไทย.

Roboforex
Roboforex

ข้อดี Roboforex

  1. ความปลอดภัยสูง: RoboForex ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานการเงินชั้นนำและมีความเสถียรภายในวงการ.
  2. ค่า Spread ต่ำ: โบรกเกอร์ RoboForex มี Spread ที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้นักเทรดสามารถประหยัดเงินในระยะยาว.
  3. การวิเคราะห์ตลาด: โบรกเกอร์นี้มีการวิเคราะห์ตลาดที่มีคุณภาพและเครื่องมือการซื้อขายที่ช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  4. นวัตกรรมเครื่องมือเทรด: RoboForex มุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องมือการซื้อขายที่ทันสมัยและทันสถานการณ์.
  5. โปรโมชั่นและโบนัส: RoboForex มีโปรโมชั่นและโบนัสต่าง ๆ ที่มอบให้นักเทรด เช่น โบนัสต้อนรับ 30 ดอลลาร์, โบนัสเงินฝากสูงถึง 115%, และคูปองสัญญาณ MQL4 มูลค่า 40 ดอลลาร์ สำหรับการซื้อสัญญาณการเทรด.
  6. การแข่งขันการเทรด: RoboForex จัดแข่งการเทรดทุกเดือนซึ่งช่วยให้นักเทรดมีโอกาสชิงรางวัลมูลค่ากว่า 3,000 ดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของบัญชี Demo.
  7. Free VPS และการเลเวอเรจสูง: RoboForex ให้บริการ Free VPS และยอดเลเวอเรจสูงถึง 1:2000 ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อขาย.
  8. มีโปรแกรม Trader Strategy Builder: โดยโปรแกรมนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถสร้างและทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายโดยไม่ต้องมีทักษะด้านการเขียนโปรแกรมเอง.
  9. Copytrade ผ่านแพลตฟอร์ม CopyFX: ที่ช่วยให้นักเทรดคัดลอกและประสบความสำเร็จจากผู้เทรดอื่น ๆ ในชุมชน.
  10. ฝากเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย: RoboForex รองรับฝากเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย 4 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกร, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ, และ ธนาคารกรุงไทย.

ข้อเสีย Roboforex

  1. ค่าคอมมิชชั่นค้าสกุลเงินคริปโต: ในบัญชี ECN, RoboForex มีการคิดค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายคริปโตค่อนข้างสูง ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงขึ้นสำหรับนักเทรดที่เน้นการซื้อขายคริปโต.
  2. ข้อจำกัดในการถอนเงิน: โบรกเกอร์อาจมีข้อจำกัดในการถอนเงิน เช่น ขั้นต่ำในการถอนหรือค่าธรรมเนียมในบางกรณี นี่อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับนักเทรดที่ต้องการถอนเงินบ่อย ๆ.
  3. ไม่มีการจัดการบัญชีซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น: RoboForex มุ่งเน้นนักเทรดที่มีประสบการณ์และนักลงทุนมืออาชีพ โดยมีบัญชี ECN ที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำแต่มีสเปรดดิบ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับนักเทรดใหม่ที่ต้องการฝึกฝนและทดลองกับบัญชีที่มีค่าสเปรดและค่าคอมมิชชั่นต่ำกว่า.
  4. ความจำเป็นในการดาวน์โหลดโปรแกรม MT4/MT5: บางคนอาจพบว่าความจำเป็นในการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) บนคอมพิวเตอร์ของพวกเขาไม่สะดวก แต่ RoboForex ไม่มีแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ (Webtrader) ที่สามารถใช้งานผ่านเว็บบราวเซอร์.
  5. ข้อจำกัดในประเภทของบัญชี: อย่างไรก็ตาม, RoboForex มีข้อจำกัดในประเภทของบัญชีที่มีให้เลือกไม่มากนัก, โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการตัวเลือกบัญชีที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของสเปรดและค่าคอมมิชชั่น

Roboforex โบนัส

RoboForex มีโปรโมชั่นโบนัสที่มาพร้อมกับเงื่อนไขที่คุ้มค่าสำหรับนักเทรดทุกคน:

roboforex โบนัส
roboforex โบนัส
  1. โบนัสต้อนรับ 30 USD:
    • เปิดบัญชี: สามารถรับโบนัสได้เมื่อเปิดบัญชี Standard MT4/MT5 ที่มี USD หรือ EUR เป็นสกุลเงินฐาน.
    • ยืนยันบัญชีของคุณ: ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันสำหรับตัวตนของคุณ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ในส่วนสมาชิก.
    • ฝากเงินไปที่บัญชีของคุณ: เพียงแค่ฝากเงินอย่างน้อย 10 USD ไปที่บัญชีของคุณผ่านบัตรธนาคาร.
  2. โบนัสส่วนแบ่งกำไร:
    • เพิ่มจำนวนเงินฝาก 60%: คุณสามารถเพิ่มจำนวนเงินฝากของคุณและได้รับโบนัสส่วนแบ่งกำไร 60% ตั้งแต่การฝากเงินครั้งแรกของคุณ.
    • บัญชีที่รองรับ: โปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้บนแพลตฟอร์ม MT4/MT5 ที่มีประเภทบัญชีเซนต์และมาตรฐาน.
    • ผ่านการยืนยัน: คุณจะต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนและที่อยู่ของคุณในส่วนสมาชิก.
    • ฝากเงิน: ฝากเงินไปที่บัญชีเทรดของคุณและรับโบนัสส่วนแบ่งกำไรสำหรับการฝากเงินครั้งแรกและครั้งต่อไป.

โบนัสเหล่านี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเทรดใหม่และมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มเงินทุนการซื้อขายของพวกเขา. ควรระวังเสมอว่าคุณเข้าใจและปฏิบัติตามเงื่อนไขของโปรโมชั่นที่กำหนดไว้ใน RoboForex เพื่อให้สามารถรับประโยชน์จากโบนัสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย.

ใบอนุญาต

RoboForex เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ที่มีใบอนุญาตและรับประกันความถูกต้องและความปลอดภัยของการซื้อขายซึ่งได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานต่าง ๆ ในหลายประเทศ. ต่อไปนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตของ RoboForex ในประเทศและรัฐที่ต่าง ๆ

roboforex ใบอนุญาต
roboforex ใบอนุญาต
  1. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
    • หมายเลขใบอนุญาต: 191/13
    • วันออกใบอนุญาต: 24/05/2013
    • คำอธิบาย: RoboForex (CY) Ltd เป็นสาขาในรัฐกิโพรส ที่ได้รับใบอนุญาตจาก CySEC และได้รับการควบคุมและกำกับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่ามีการดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับทางการเงินของยูโรโซน.
  2. Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
    • หมายเลขใบอนุญาต: 428901
    • วันออกใบอนุญาต: 10/07/2009
    • คำอธิบาย: RoboForex Pty Ltd เป็นสาขาในประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ASIC และมุ่งเน้นการควบคุมและควบคุมเพื่อให้มั่นใจว่าบริการทางการเงินของพวกเขามีความเป็นธรรมและปลอดภัย.
  3. The Financial Services Commission (FSC) ในบริติชเวอร์จินอง
    • หมายเลขใบอนุญาต: C036016172
    • วันออกใบอนุญาต: 01/07/2014
    • คำอธิบาย: RoboForex Ltd ได้รับใบอนุญาตจาก FSC ในบริติชเวอร์จินองเพื่อให้บริการการซื้อขายซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในรัฐบาลที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการกำกับดูแลทางการเงิน.
  4. The International Financial Services Commission (IFSC) ในเบลีซ
    • หมายเลขใบอนุญาต: IFSC/60/271/TS/17
    • วันออกใบอนุญาต: 25/04/2017
    • คำอธิบาย: RoboForex Ltd ได้รับใบอนุญาตจาก IFSC ในเบลีซเพื่อให้บริการการซื้อขายและการลงทุนในตลาดทางการเงิน.

แพลตฟอร์ม

RoboForex มี 4 แพลตฟอร์มการเทรดที่ให้บริการนักเทรดทั้งใหม่และมืออาชีพ:

roboforex แพลตฟอร์มเทรด
roboforex แพลตฟอร์มเทรด
  1. MetaTrader 4 (MT4):
    • MetaTrader 4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนตลาด Forex.
    • มีคุณสมบัติและเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับทั้งผู้เทรดเริ่มต้นและมืออาชีพ.
    • สามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ Windows, MAC, เว็บเบราว์เซอร์, และมือถือ Android, IOS.
  2. MetaTrader 5 (MT5):
    • MetaTrader 5 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่พัฒนาต่อมาจาก MetaTrader 4 โดยมีเครื่องมือและฟังก์ชันการใช้งานต่างๆที่เยอะกว่า.
    • สามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ Windows, MAC, เว็บเบราว์เซอร์, และมือถือ Android, IOS.
  3. cTrader:
    • cTrader เป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้เทรดที่มีประสบการณ์ ที่ชอบความเร็วของการดำเนินคำสั่งและตราสารที่ไม่เหมือนใคร.
    • มีตัวชี้วัดทางเทคนิค (indicators) 54 ชนิดและ TimeFrame 14 ชนิด.
    • สามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์ Windows, MAC, เว็บเบราว์เซอร์, และมือถือ Android, IOS.
  4. R StocksTrader:
    • R StocksTrader เป็นแพลตฟอร์มการเทรดของ RoboForex ที่มีสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลายกว่า 12,000 ชนิด.
    • รวมถึงดัชนี, CFDs บนหุ้น, CFDs บนน้ำมัน, CFDs บนโลหะ, ฟอเร็กซ์, เงินดิจิทัล, และ ETF.
    • เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเทรดในหลากหลายสินทรัพย์จากการเปิดแค่บัญชีเดียว.
    • สามารถใช้งานได้ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์และแอปมือถือ Android, IOS.

เทรดอะไรได้บ้าง

  1. Forex (Foreign Exchange):
    • การซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    • สามารถซื้อและขายคู่สกุลเงินที่แตกต่างกัน เช่น EUR/USD, GBP/JPY, USD/JPY, และอื่น ๆ
  2. โลหะ:
    • การซื้อขายโลหะเช่นทองคำและเงินที่มีความนิยมในการลงทุนและการซื้อขาย
    • สามารถเข้าถึงตลาดทองคำและเงินที่มีความเปลี่ยนแปลงราคาสูง
  3. หุ้น (Stocks):
    • การซื้อขายหุ้นของบริษัทที่มีการเทรดบนตลาดหลัก
    • สามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก
  4. ดัชนี (Indices):
    • การซื้อขายดัชนีที่เป็นตัววัดของประสิทธิภาพของตลาดหลัก
    • สามารถเข้าถึงดัชนีสำคัญเช่น S&P 500, NASDAQ, Dow Jones, และอื่น ๆ
  5. สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities):
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์เช่นน้ำมันดิบและกาแฟ
    • สามารถเข้าถึงตลาดสินค้าที่มีความเปลี่ยนแปลงราคาสูง
  6. ETF (Exchange-Traded Funds):
    • การซื้อขายหน่วยของกองทุนรวมแบบนานาชาติที่ซื้อขายบนตลาดหลัก
    • สามารถซื้อขาย ETF ที่สัมพันธ์กับหลายสินทรัพย์ในบัญชีเดียว
  7. พลังงาน (Energy):
    • การซื้อขายพลังงานเช่นน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ
    • สามารถเข้าถึงตลาดพลังงานที่มีความเปลี่ยนแปลงราคาสูง
  8. คริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency):
    • การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin, Ethereum, Litecoin, และอื่น ๆ
    • สามารถเข้าถึงตลาดคริปโตเคอเรนซีที่มีความเปลี่ยนแปลงราคามาก

ประเภทบัญชี

roboforex ประเภทบัญชี
roboforex ประเภทบัญชี

1. Pro-Standard : ประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ RoboForex พร้อมเงื่อนไขการเทรดที่เหมาะสม ซึ่งเหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่และที่มีประสบการณ์

เงินฝากขั้นต่ำ : 10 USD / 10 EUR

สเปรด : ลอยตัวตั้งเเต่ 1.3 pip

2. Pro-Cent : ฟีเจอร์หลักคือการใช้เซนต์เป็นหน่วยสกุลเงินฐาน ( เซนต์สหรัฐ, เซนต์ยุโรป อื่นๆ ) การใช้บัญชี Pro-Cent นักเทรดมือใหม่และที่มีประสบการณ์สามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดของพวกเขาได้

เงินฝากขั้นต่ำ : 10 USD / 10 EUR

สเปรด : ลอยตัวตั้งเเต่ 1.3 pip

3. ECN-Pro : บัญชี ECN-Pro มีจุดประสงค์เพื่อมืออาชีพที่ชอบเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ ( สเปรดแคบที่สุด, ความเร็ว การดำเนินการสูง )

เงินฝากขั้นต่ำ : 10 USD / 10 EUR

สเปรด : ลอยตัวตั้งเเต่ 0 pip

4. Prime : เงื่อนไขการเทรดพร้อมเงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุดที่มีอยู่ที่บริษัท ( คล้ายกับผู้ให้บริการสภาพคล่อง ) ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อนักเทรด ” ชั้นสูง ”

เงินฝากขั้นต่ำ : 5,000 USD

สเปรด : ลอยตัวตั้งเเต่ 0 pip

5. R Trader : บัญชีพิเศษสำหรับการเทรดผ่านเว็บเพลตฟอร์ม สินทรัพย์หลายรายการ R Trader สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ ที่ต้องการเข้าถึงตลาดการเงินหลักทั้งหมดจากบัญชีเดียว

เงินฝากขั้นต่ำ : 100 USD

สเปรดตั้งเเต่ : 0.01 USD

ฝากถอนเงิน

roboforex ฝากถอน
roboforex ฝากถอน

การฝากเงิน

  1. เข้าสู่บัญชีการซื้อขายของคุณ: เริ่มต้นโดยเข้าสู่บัญชีการซื้อขายของคุณบนแพลตฟอร์ม RoboForex ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ.
  2. ไปที่หน้าการเงิน (Deposit): เมื่อคุณเข้าสู่บัญชีของคุณ ให้คลิกที่ “การเงิน” หรือ “Deposit” ที่หน้าแรกของแพลตฟอร์ม.
  3. เลือกวิธีการฝากเงิน: RoboForex มีตัวเลือกการฝากเงินหลายรูปแบบ เช่น ธนาคารท้องถิ่น, บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต, โอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง, หรือกระโดดเข้าสู่ช่องทางของบริการชื่อเสียง เช่น Skrill, Neteller, และอื่น ๆ.
  4. กรอกข้อมูลการฝาก: กรอกจำนวนเงินที่คุณต้องการฝาก และปฏิบัติตามคำแนะนำในแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง. คุณอาจต้องกรอกข้อมูลการชำระเงินหรือรายละเอียดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับวิธีการที่คุณเลือก.
  5. ยืนยันการฝากเงิน: หลังจากกรอกข้อมูลการฝากเงินเสร็จสิ้น ให้ตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องและคลิกยืนยันการทำธุรกรรม. เงินจะถูกเพิ่มในบัญชีการซื้อขายของคุณในไม่กี่นาที.

การถอนเงิน

  1. เข้าสู่บัญชีการซื้อขายของคุณ: เริ่มต้นโดยเข้าสู่บัญชีการซื้อขายของคุณบนแพลตฟอร์ม RoboForex ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ.
  2. ไปที่หน้าการเงิน (Withdrawal): ในหน้าแรกของแพลตฟอร์ม ให้คลิกที่ “การเงิน” หรือ “Withdrawal.”
  3. เลือกวิธีการถอนเงิน: RoboForex มีตัวเลือกการถอนเงินหลายรูปแบบ เช่น โอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต, หรือผ่านระบบจ่ายเงินออนไลน์.
  4. กรอกข้อมูลการถอนเงิน: กรอกจำนวนเงินที่คุณต้องการถอน และปฏิบัติตามคำแนะนำในแบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง. คุณอาจต้องกรอกข้อมูลบัญชีธนาคารหรือรายละเอียดอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับวิธีการที่คุณเลือก.
  5. ยืนยันการถอนเงิน: หลังจากกรอกข้อมูลการถอนเงินเสร็จสิ้น ให้ตรวจสอบข้อมูลว่าถูกต้องและคลิกยืนยันการทำธุรกรรม. การถอนเงินจะดำเนินการและเงินจะถูกโอนไปยังบัญชีที่คุณระบุ.

ซัพพอร์ต

คุณสามารถติดต่อทีมซัพพอร์ตคนไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็วผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้:

  1. Facebook: คุณสามารถติดต่อทีมซัพพอร์ตผ่านหน้า Facebook ของ RoboForex ที่ชื่อ @roboforex.asia.official
  2. Line: คุณสามารถติดต่อทีมซัพพอร์ตผ่าน Line ID @roboforex
  3. Email: คุณสามารถส่งอีเมลถึงทีมซัพพอร์ตที่ [email protected]
  4. เบอร์โทรศัพท์: หากคุณต้องการสนทนาโดยตรง, คุณสามารถโทรหาทีมซัพพอร์ตได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 065-965-6091

RoboForex ใส่ใจในการให้บริการลูกค้าและมีช่องทางการติดต่อหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดในทุกช่วงเวลาและสถานการณ์ ทีมซัพพอร์ตที่คนไทยสามารถเชื่อถือและพร้อมให้ความช่วยเหลือคุณในทุกข้อสงสัยและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเทรดของคุณ.

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x