รีวิวโบรกเกอร์ HFM ดีไหม สมัครเปิดบัญชีฝากถอนเงิน รับโบนัส

รีวิวโบรกเกอร์ HFM ดีไหม

HFM (HotForex) เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จอย่างมากมาย โดยเน้นความปลอดภัยในการดำเนินการทางการเงินอย่างดีเยี่ยม โบรกเกอร์นี้ยังมีการประกันการสูญเสียทางการเงินที่มีวงเงินสูงถึง 5,000,000 ปอนด์ผ่าน Renaissance Insurance Reinvented และมีการแยกเงินทุนของลูกค้าออกจากเงินทุนของบริษัท ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของเงินลูกค้าอีกด้วย

โบรกเกอร์ HFM มีประสิทธิภาพโดยรวมที่แนวหน้า มีความคล่องตัวสูงในการให้บริการ และมีโปรโมชั่นและโบนัสมากมาย ซึ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับนักเทรด สำหรับผลิตภัณฑ์การเทรด โบรกเกอร์ HFM มีครบวงจร รวมถึงคู่สกุลเงินทั่วโลก สกุลเงินดิจิตอล โลหะ (ทองคำ, เงิน และอื่น ๆ) ดัชนีชั้นนำของโลก หุ้น น้ำมัน กาแฟ ทองแดง และพันธบัตร เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความหลากหลายในการลงทุน

HFM ยังมีช่องทางการฝากถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย ทำให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างสะดวกสบายสำหรับนักเทรดในประเทศไทย นอกจากนี้ HFM ยังให้บริการผ่านแอพมือถือที่สามารถทำเทรดผ่านมือถือได้โดยตรง ดูกราฟทางเทคนิค ใช้งาน HFcopy, PAMM และที่สำคัญสามารถทำธุรกรรมฝากถอนผ่านแอพได้อีกด้วย ทำให้นักเทรดสามารถซื้อขายได้อย่างสะดวกและมีความคุ้มค่า

ข้อดีของ HFM (HotForex)

1. น่าเชื่อถือสูง: HFM เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมและมีความเชื่อถือสูงในวงการการเทรด Forex และ CFD ด้วยประสบการณ์ที่นานาปีและการได้รับรางวัลอันหลากหลายเป็นหลักฐานของความน่าเชื่อถือ.
2. มีสินทรัพย์ให้เทรดเยอะ: โบรกเกอร์นี้มีสินทรัพย์ให้เทรดมากมายในหลายกลุ่มที่รวมถึง Forex, สกุลเงินดิจิทัล, โลหะ (ทองคำ, เงิน), ดัชนี, หุ้น, น้ำมัน, กาแฟ, ทองแดง, และพันธบัตร ทำให้นักเทรดสามารถค้นหาโอกาสการเทรดในตลาดต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย.
3. ค่า Spread Forex ต่ำ: HFM มี Spread ต่ำสำหรับคู่สกุลเงิน Forex ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเทรด.
4. ไม่มีค่า Swap ใน Forex (คู่เงินหลัก) และทองคำ: สำหรับบางคู่สกุลเงินหลักและทองคำ, HFM ไม่มีค่า Swap ทำให้นักเทรดที่ไม่ต้องการจ่ายค่า Swap สามารถเทรดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม.
5. ไม่มีค่าธรรมเนียมฝากเงินและถอนเงิน: HFM ไม่คิดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมฝากเงินและถอนเงิน, ทำให้นักเทรดสามารถจัดการกับเงินของตนเองได้อย่างสะดวก.
6. มีประเภทบัญชีเทรดให้เลือกเยอะ: โบรกเกอร์นี้มีหลากหลายประเภทของบัญชีเทรดสำหรับนักเทรดระดับต่าง ๆ โดยรวมถึงบัญชี Micro, Premium, Zero Spread, Auto, HFCopy, PAMM, และ Islamic.
7. มีแพลตฟอร์มการเทรดเยอะ: HFM มีการสนับสนุนแพลตฟอร์มการเทรดอันมีชื่อเสียงอย่าง MetaTrader 4 และ MetaTrader 5, ที่มีความสามารถและเครื่องมือที่ครบครันสำหรับนักเทรดทุกระดับ.
8. ให้เลเวอเรจ 1:2000: โบรกเกอร์นี้มีการให้เลเวอเรจสูงสุดถึง 1:2000 ทำให้นักเทรดมีความยืดหยุ่นในการเปิดซื้อขายในขนาดใหญ่.
9. โบนัสและโปรโมชันเยอะ: HFM มักมีโปรโมชันและโบนัสต่าง ๆ ที่นักเทรดสามารถใช้เพิ่มเติมในการเทรด.
10. ฝากถอนเงินเข้าไวมาก: โบรกเกอร์ HFM มีระบบการฝากถอนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการดำเนินการทางการเงิน.
11. ฝากถอนเงินขั้นต่ำน้อย: นักเทรดสามารถฝากเงินขั้นต่ำได้อย่างสะดวก.
12. ช่องทางฝากถอนเงินเยอะ: HFM มีหลายช่องทางในการฝากถอนเงินทำให้นักเทรดสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกสบายได้.
13. มีเว็บไซต์และแอพพลิเคชันให้ใช้งานสะดวก: นักเทรดสามารถเทรดผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชันที่สะดวกและใช้งานง่ายทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์.

ข้อเสียของ HFM

1. ค่า Spread Forex, ทองคำสูง: ค่า Spread สำหรับบางคู่สกุลเงิน Forex และทองคำอาจมีราคาสูงเมื่อเทียบกับบริษัทคู่แข่ง.
2. Crypto มีค่า Swap: สำหรับการซื้อขายคริปโตค่า Swap อาจมีค่าในบางกรณี ซึ่งอาจเป็นความไม่พึงพอใจสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายค่า Swap.
3. เรทฝากถอนสูง: บางช่องทางการฝากถอนเงินอาจมีค่าใช้จ่ายสูง นักเทรดควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมก่อนทำธุรกรรม.
4. ไม่มีเบอร์โทรในประเทศไทยให้ติดต่อ: การติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าในประเทศไทยอาจมีความยุ่งยากเนื่องจากขาดข้อมูลเบอร์โทรติดต่อในประเทศ.
5. ไม่มีไลน์ให้ติดต่อ: ไม่มีบริการแชทแบบไลน์สำหรับการติดต่อเร่งด่วน

ใบอนุญาต

HFM (HotForex) เป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตและรับการควบคุมจากหลายหน่วยงานความเสมอภาคและอาณานิคราชอาณาจักรต่างๆ ในระดับสากล นี่คือรายละเอียดของใบอนุญาตที่ HFM ได้รับ:

1. SV (เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์): HFM มีการจดทะเบียนกับ SV (เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์) ในปี 2015 โดยมีหมายเลขการจดทะเบียน 22747 IBC 2015 นี่เป็นการรับรองว่า HFM เป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีสิทธิ์ในการดำเนินกิจการการเงิน.
2. FCA (Financial Conduct Authority – United Kingdom): HFM ได้รับใบอนุญาตจาก FCA ในสหราชอาณาจักร และได้รับหมายเลขใบอนุญาต 801701 นี่เป็นการรับรองว่า HFM ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความถูกต้องและความน่าเชื่อถือในการให้บริการทางการเงิน.
3. DFSA (Dubai Financial Services Authority): ใบอนุญาตจาก DFSA ให้ความคุ้มครองแก่ HFM ในอาณาจักรดูไบ และได้รับหมายเลขใบอนุญาต F004885 การรับใบอนุญาตจากหน่วยงานความเสมอภาคในดูไบเดอะมิดดิลอีสท์แสดงถึงความความน่าเชื่อถือของ HFM.
4. FSCA (Financial Sector Conduct Authority – South Africa): HFM ได้รับใบอนุญาตจาก FSCA ในแอฟริกาใต้ และได้รับหมายเลขใบอนุญาต 46632 นี่เป็นการรับรองว่า HFM ปฏิบัติตามกฎหมายทางการเงินในประเทศแอฟริกาใต้.
5. FSA (Financial Services Authority – Seychelles): ใบอนุญาตจาก FSA ในเซเชลส์ และได้รับหมายเลขใบอนุญาต SD015 นี่เป็นการรับรองว่า HFM ปฏิบัติตามกฎหมายการเงินในเซเชลส์.

การได้รับใบอนุญาตและการควบคุมจากหน่วยงานความเสมอภาคและอาณานิคราชอาณาจักรต่างๆ เหล่านี้แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ HFM ในการให้บริการการเงินแก่ลูกค้าของพวกเขาทั่วโลก.

แพลตฟอร์มเทรด

HFM ให้บริการการเทรดผ่านแพลตฟอร์มที่นิยมและเป็นที่รู้จักในวงการการเงิน ดังนี้

1. MetaTrader 4 (MT4): MT4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่เคยได้รับความนิยมมากในอดีตและยังคงเป็นที่ติดอันดับสูงในวงการการเงิน. แพลตฟอร์มนี้มีความสามารถทางเทคนิคที่มากมาย เช่น การวาดแผนภาพแท่งเทียน (Candlestick Chart) และการใช้ Expert Advisors (EA) สำหรับการเทรดทางอัตโนมัติ. MT4 ยังมีการแจ้งเตือนและตัวชี้วัดมากมายเพื่อช่วยให้นักเทรดติดตามตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
2. MetaTrader 5 (MT5): MT5 เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก MT4 และมีความสามารถที่ก้าวหน้ามากกว่า. แพลตฟอร์มนี้มีรายละเอียดและการวาดแผนภาพที่ทันสมัยมากขึ้น และมีเครื่องมือทางเทคนิคที่ครอบคลุมมากมาย. MT5 ยังมีการให้บริการในการเทรดหลายสินทรัพย์ซึ่งรวมถึงสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) และ CFDs มากขึ้น.

ทั้ง MT4 และ MT5 มีอินดิเคเตอร์และตัวชี้วัดมากมายที่นักเทรดสามารถใช้เพิ่มเติมเพื่อวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจในการเทรด. นอกจากนี้ Infinox ยังมีแอพพลิเคชันมือถือสำหรับ MT4 และ MT5 ที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตของพวกเขา.

โดยทั่วไปแล้ว, การมีให้บริการแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5 ทำให้ลูกค้าของ HFM สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะกับการเทรดและสไตล์การเทรดของพวกเขาได้ตามความต้องการ.

เทรดอะไรได้บ้าง

HFM มีความหลากหลายในผลิตภัณฑ์เทรดที่ท่านสามารถเลือกใช้ในการซื้อขาย โดยมีมากกว่า 3,500 รายการให้บริการ รายการผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกจัดเรียงตามหมวดหมู่ต่างๆ ดังนี้:

1. Forex (ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา): นี่คือตลาดที่มีความนิยมสูงสุดในโลกที่นักเทรดทั่วโลกนิยมใช้ในการเทรดคู่สกุลเงินหลักและรอง. Infinox มีคู่สกุลเงินหลากหลายให้เลือกใช้.
2. โลหะ: นอกจากคู่สกุลเงินแล้ว, นักเทรดยังสามารถซื้อขายในตลาดโลหะ เช่น ทองคำและเงิน ซึ่งเป็นการลงทุนที่นิยมในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนในตลาด.
3. พลังงาน: นักเทรดสามารถเริ่มต้นการลงทุนในตลาดพลังงาน เช่น น้ำมันดิบ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความนิยมในการเทรด.
4. ดัชนี: การลงทุนในดัชนีชั้นนำของโลก เช่น S&P 500, Dow Jones, หรือ FTSE 100 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักเทรดที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นทางอินเด็กซ์.
5. หุ้น CFDs: นักเทรดสามารถซื้อขายสินค้าทางการเงินของบริษัทในรูปแบบของ CFDs ที่มีให้เลือกมากมาย ซึ่งช่วยให้สามารถลงทุนในตลาดหุ้นได้โดยไม่ต้องเสียค่าซื้อขายแบบจริงจัง.
6. สินค้าโภคภัณฑ์: นักเทรดสามารถลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น กาแฟหรือน้ำมันปาล์ม ที่มีการแลกเปลี่ยนที่ต้องการในตลาดโลก.
7. พันธบัตร (Bonds): นักเทรดสามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐหรือเอกชนในรูปแบบของ CFDs.
8. ETF (Exchange-Traded Fund): นักเทรดสามารถเริ่มต้นการลงทุนใน ETFs ที่มีให้เลือกในหลายสาขาอุตสาหกรรม.
9. หุ้นต่างประเทศ: สำหรับนักเทรดที่ต้องการเข้าสู่ตลาดหุ้นต่างประเทศ, คุณสามารถซื้อขาย CFDs ในหุ้นต่างประเทศที่น่าสนใจ.
10. สกุลเงินคริปโต (Cryptocurrency): นักเทรดสามารถลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลเช่น Bitcoin, Ethereum, และอื่นๆ ผ่านแพลตฟอร์มของ Infinox.

ด้วยความหลากหลายในผลิตภัณฑ์การเทรดเหล่านี้, นักเทรดทุกคนสามารถเลือกใช้โอกาสลงทุนที่เหมาะสมกับความรู้และเป้าหมายการลงทุนของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย.

ประเภทบัญชีเทรด

HFM (HotForex) นำเสนอประเภทบัญชีที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและสไตล์การเทรดของลูกค้าที่แตกต่างกันไป นี่คือรายละเอียดของบัญชีที่ HFM มีให้บริการ:

1. Micro Account (บัญชี Micro):
   • เหมาะสำหรับ: สำหรับลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินลงทุนน้อยหรือผู้ที่เป็นมือใหม่ในการเทรด.
   • เงื่อนไขการเทรด:
     • เลเวอเรจสูงสุด: 1:1000
     • Spread: เริ่มต้นที่ 1 จุด
   • หมายเหตุ: บัญชี Micro ช่วยให้ลูกค้าสามารถเริ่มต้นเทรดด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำที่น้อยกว่าบัญชีประเภท Classic.
2. Premium Account (บัญชี Premium):
   • เหมาะสำหรับ: เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ในการเทรดแล้ว.
   • เงื่อนไขการเทรด:
     • Lot ที่ใช้เทรดขั้นต่ำ: 0.01
     • Lot ที่ใช้เทรดสูงสุด: 60 lots
   • หมายเหตุ: บัญชี Premium มีเงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่นและเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน.
3. Zero Account (บัญชี Zero):
   • เหมาะสำหรับ: สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดด้วยค่า Spread แคบเป็นพิเศษ.
   • เงื่อนไขการเทรด:
     • เงินฝากขั้นต่ำ: $100
     • ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้น: $0.04 ต่อ 1K lot
   • หมายเหตุ: บัญชี Zero Spread ลดภาระในการลงทุนด้วยค่า Spread แคบเหมือนกับ Interbank.
4. HFcopy Account (บัญชี HFcopy):
   • เหมาะสำหรับ: สำหรับผู้ที่ต้องการแบ่งปันและคัดลอกกิจกรรมการเทรดของเทรดเดอร์อื่น.
   • คุณสมบัติ: บัญชีนี้ช่วยให้คุณสามารถเปิดให้ผู้อื่นมาคัดลอกการเทรดของคุณได้.
5. CENT Account (บัญชี CENT):
   • เหมาะสำหรับ: คล้ายกับบัญชี Micro แต่มีความแตกต่างในเรื่องค่า Swap และ Contract size.

แต่ละประเภทของบัญชีมีเงื่อนไขและสิ่งส่งเสริมการเทรดที่แตกต่างกัน ลูกค้าสามารถเลือกบัญชีที่เหมาะกับความต้องการและเป้าหมายในการเทรดของพวกเขาได้อย่างครอบคลุมกับ HFM.

HFM โบนัส

HFM (HotForex) มอบโอกาสให้ลูกค้าได้รับโบนัสที่มากมายเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการเทรด นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับโบนัสที่ HFM มีให้:

1. โบนัส 20% สูงสุด 5,000 USD:
   • เป้าหมายของโบนัส: โบนัสนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการเทรดและเพิ่มส่วนของการลงทุนของคุณ.
   • สูงสุด: คุณสามารถรับโบนัสสูงสุดได้ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ.
2. โบนัส 100% สูงสุด 6,000 USD:
   • เป้าหมายของโบนัส: โบนัสนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดเงินทุนที่คุณสามารถใช้ในการเทรด.
   • สูงสุด: คุณสามารถรับโบนัสสูงสุดได้ถึง 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ.

โบนัสเหล่านี้มีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่คุณต้องปฏิบัติตามเพื่อรับโบนัส ควรอ่านและเข้าใจข้อกำหนดเหล่านี้อย่างรอบคอบก่อนที่คุณจะยอมรับโบนัสเพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเทรดอย่างเต็มที่ที่ HFM มอบให้คุณ

สมัครเปิดบัญชี

ขั้นตอนการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ HFM (HotForex) ถือเป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยไม่ยากเย็น นี่คือขั้นตอนอย่างละเอียด:

ขั้นตอนที่ 1: ลงทะเบียน

1.1. เข้าสู่เว็บไซต์ HFM โดยไปที่ https://www.hotforex.com/.

1.2. คลิกที่ “ลงทะเบียน” หรือ “Register” ที่มุมขวาบนของหน้าเว็บ.

1.3. กรอกข้อมูลต่อไปนี้:

• ประเทศไทย
• อีเมล
• กำหนดรหัสผ่าน
• กดยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว

1.4. กด “ลงทะเบียน” เพื่อสร้างบัญชีใหม่.

ขั้นตอนที่ 2: ยืนยันอีเมล

2.1. ระบบจะแจ้งว่าลงทะเบียนสำเร็จและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ถูกส่งไปยังอีเมลของคุณ.

2.2. เปิดอีเมลของคุณและคลิกที่ลิงก์ยืนยันอีเมล.

ขั้นตอนที่ 3: กรอกข้อมูลส่วนตัว

3.1. เมื่อคุณคลิกลิงก์ยืนยันอีเมลแล้ว คุณจะถูกนำไปยังหน้าเว็บให้กรอกข้อมูลส่วนตัว.

3.2. กรอกข้อมูลของคุณให้ครบถ้วน และเลือกสกุลเงินที่คุณต้องการใช้ในบัญชีการซื้อขาย.

3.3. คลิก “ยืนยัน” เมื่อคุณเสร็จสิ้นกรอกข้อมูล.

ขั้นตอนที่ 4: เปิดบัญชีเทรด

4.1. หลังจากยืนยันข้อมูลส่วนตัวเรียบร้อย คุณสามารถเลือกประเภทบัญชีการซื้อขายที่คุณต้องการ.

4.2. คลิกที่ประเภทบัญชีที่คุณต้องการเปิด เช่น “Micro,” “Premium,” หรือ “Zero.”

4.3. ติดตามขั้นตอนการเปิดบัญชีที่แสดงในหน้าเว็บ และกรอกข้อมูลเพิ่มเติมตามที่ระบุ.

4.4. คลิก “ต่อ” เมื่อคุณเสร็จสิ้น.

เมื่อคุณทำขั้นตอนทั้งหมดนี้เรียบร้อย บัญชีการซื้อขายของคุณก็พร้อมใช้งานและคุณสามารถเริ่มต้นการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม HFM ได้ทันที. อย่าลืมทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขของบัญชีของคุณก่อนที่คุณจะเริ่มซื้อขายและลงทุนในตลาดทางการเงิน.

การฝากถอนเงิน

การฝากเงินและถอนเงินกับโบรกเกอร์ HFM (HotForex) เป็นเรื่องง่ายและสะดวก ดังนี้คือขั้นตอนและข้อมูลที่คุณควรทราบ:

การฝากเงิน

HFM มีช่องทางการฝากเงินหลากหลายทางที่คุณสามารถเลือกใช้ได้:

1. บัตรเครดิต/บัตรเดบิต VISA และ Mastercard: คุณสามารถฝากเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของ VISA และ Mastercard ได้ทันที.
2. E-Wallets (Neteller และ Skrill): คุณสามารถใช้บริการ E-Wallets เช่น Neteller และ Skrill เพื่อฝากเงินและถอนเงิน.
3. Cryptocurrencies (Bitcoin): ถ้าคุณใช้ Bitcoin คุณสามารถฝากเงินผ่าน Bitcoin Wallet ของคุณ.
4. บริการชำระเงินออนไลน์ (WebMoney, Union Pay, FasaPay): คุณสามารถใช้บริการชำระเงินออนไลน์เช่น WebMoney, Union Pay, และ FasaPay เพื่อฝากเงิน.
5. การโอนเงินผ่านธนาคาร: คุณยังสามารถฝากเงินผ่านการโอนเงินทางธนาคารได้ โดยการฝากผ่านธนาคารออนไลน์หรือการสแกน QR Code และใช้บัญชีที่ธนาคารต่าง ๆ ในประเทศไทยรองรับ ได้แก่:
   • ธนาคารกรุงเทพฯ
   • ธนาคารกสิกรไทย
   • ธนาคารกรุงศรีฯ
   • ธนาคารไทยพาณิชย์
   • ธนาคารออมสิน
   • ธนาคารเกียรตินาคิน
   • ธนาคารทหารไทย
   • ธนาคาร CIMB

การถอนเงิน

การถอนเงินจากบัญชี HFM ก็เช่นกัน คุณสามารถทำได้ง่ายๆ โดยทำตามขั้นตอนนี้:

1. เข้าสู่บัญชี HFM ของคุณผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เหมาะสม.
2. ไปที่หน้าการถอนเงิน (Withdrawal) ในบัญชีของคุณ.
3. ระบุจำนวนเงินที่คุณต้องการถอน.
4. เลือกวิธีการถอนเงินที่คุณต้องการใช้ ซึ่งสามารถเป็นบัตรเครดิต, E-Wallets, หรือการโอนผ่านธนาคาร.
5. กรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการถอนเงิน (เช่น ข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลบัญชีธนาคาร).
6. ยืนยันข้อมูลการถอนเงินและส่งคำขอ.
7. รอให้ระบบตรวจสอบและดำเนินการถอนเงินของคุณ ซึ่งอาจใช้เวลาตามข้อกำหนดของ HFM.

ข้อมูลสำคัญ

• ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมการฝากเงินและถอนเงิน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามวิธีการที่คุณใช้.
• การยืนยันตัวตนอาจจำเป็นสำหรับการถอนเงินหรือเมื่อฝากเงินในบัญชีครั้งแรก.
• คุณควรทราบว่าเมื่อถอนเงินผ่านบัตรเครดิตหรือ E-Wallets อาจมีข้อจำกัดต่อยอดเงินที่คุณสามารถถอนได้ในแต่ละครั้ง.

ขอความระมัดระวังในการฝากเงินและถอนเงิน เช็คข้อมูลและค่าธรรมเนียมที่อาจเกี่ยวข้องกับบัญชีของคุณ และอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขในเว็บไซต์ของ HFM อย่างละเอียดเสมอ

HFM ซัพพอร์ต

HFM (HotForex) เปิดให้บริการซัพพอร์ตภาษาไทยเพื่อรองรับลูกค้าได้อย่างครบวงจร ดังนี้:

1. ไลฟ์แชท 24 ชั่วโมง (จันทร์ – ศุกร์): คุณสามารถติดต่อทีมซัพพอร์ตของ HFM ผ่านช่องทางแชทสด 24 ชั่วโมงในวันจันทร์ถึงศุกร์ เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือทันที.
2. โทรศัพท์: คุณสามารถติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตของ HFM ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 02-506-0095 ในช่วงเวลา 10.00 – 22.00 น. เวลาประเทศไทย ในวันทำการ.
3. อีเมล: คุณสามารถส่งอีเมลถึงฝ่ายซัพพอร์ตของ HFM ผ่านที่อยู่อีเมล [email protected] เพื่อรายงานปัญหาหรือขอความช่วยเหลือ.
4. ผู้จัดการบัญชีส่วนตัว: ทุกลูกค้าของ HFM จะได้รับการดูแลจากผู้จัดการบัญชีส่วนตัว ซึ่งจะให้บริการทุกวันในช่วงเวลา 10.00 – 19.00 น. ผู้จัดการบัญชีส่วนตัวจะติดต่อกับลูกค้าใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังจากที่ลูกค้าสมัครบัญชี นอกจากนี้ยังมี Exclusive ส่วนตัวสำหรับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า.

การซัพพอร์ตที่สมบูรณ์แบบและใช้งานง่ายทำให้ลูกค้าของ HFM รู้สึกมั่นใจและสามารถติดต่อให้คำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา ทั้งในกรณีฉุกเฉินและในปัญหาทางการเทรดทั่วไปของลูกค้า.